ฟันกร่อนจากการว่ายน้ำ

พ่อแม่ควรอ่าน
นักกีฬาว่ายน้ำยิ่งต้องอ่าน

       ในขณะที่ลูกๆกำลังซ้อมว่ายน้ำอย่างหนัก หรือช่วงเวลาที่นักกีฬาว่ายน้ำทุ่มเทเวลามากมายเพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน เรื่องฟันกร่อนจากการว่ายน้ำอาจเป็นเรื่องที่ถูกละเลยได้มากที่สุด พอรู้ตัวอีกทีฟันก็อาจจะสึกหายไปแล้วครึ่งหนึ่ง และเป็นที่น่าตกใจมากว่าเราสามารถพบฟันกร่อนในนักกีฬาว่ายน้ำทั้งเด็กและผู้ใหญ่ได้มากกว่า 90% และเกือบ 80% ต้องพบกับอาการเสียวฟันไม่มากก็น้อย ซึ่งฟันกร่อนจากการว่ายน้ำนั้นสามารถป้องกันได้ง่ายๆไม่ยุ่งยาก แต่การซ่อมแซมบูรณะฟันที่กร่อนไปมากแล้วจัดว่าเป็นงานหนักหนาสาหัสเอาการ ดังนั้นเรามาทำความรู้จักลักษณะฟันกร่อน การป้องกันการเกิดฟันกร่อนกันดีกว่าค่ะ

ลักษณะของฟันกร่อนจากการว่ายน้ำ

     ฟันกร่อน (erosion) เป็นลักษณะของผิวเคลือบฟันที่ถูกสารเคมีที่มีความเป็นกรดกัดกร่อนทำลายให้บางลง ในระยะแรกของการเกิดฟันกร่อนจากการว่ายน้ำ จะเห็นเพียงผิวฟันมีลักษณะเรียบเป็นมันมากขึ้นเท่านั้น ซึ่งอาจสังเกตได้ยากโดยคนทั่วไป ดังนั้นหากลูกหลาน หรือตัวผู้อ่านว่ายน้ำเป็นประจำ ควรได้รับการตรวจประเมินภาวะฟันกร่อนโดยทันตแพทย์เป็นประจำ

     โดยปกติแล้วผิวฟันหน้าตามธรรมชาติของจะมีลักษณะเป็นสันนูน เป็นคลื่น แต่เมื่อถูกกัดกร่อนไปจะทำให้ลักษณะดังกล่าวหายไป ฟันจึงมีความเรียบแบนเป็นมันเงามากขึ้น อาจเห็นฟันมีสีเหลืองมากขึ้น หรือมีคราบสีน้ำตาล เนื่องจากผิวเคลือบฟันชั้นนอกเริ่มหายไปทำให้เห็นส่วนเนื้อฟันที่มีสีเหลืองมากขึ้น หากฟันนั้นมีวัสดุอุดฟันอยู่ ขอบของวัสดุอุดฟันจะนูนสูงขึ้นเนื่องจากผิวรอบวัสดุอุดฟันถูกกร่อนทำลายออกไป เมื่อเคลือบฟันถูกกัดกร่อนออกไปมากเข้า ก็จะเกิดอาการเสียวฟันเมื่อทานน้ำร้อน น้ำเย็น หรือเครื่องดื่มรสหวาน และเมื่อเกิดฟันกร่อนจากการว่ายน้ำไปแล้ว ก็จะกร่อนออกไปเลย ร่างกายไม่สามารถซ่อมแซมให้หายกลับคืนสภาพเดิมได้ หากต้องการแก้ไขต้องทำการบูรณะด้วยการอุดฟัน วีเนียร์ หรือครอบฟัน เท่านั้น หากเป็นนักกีฬาเยาวชน เป็นเด็กที่เนื้อฟันยังไม่ได้แข็งแรงเท่าไหร่ ก็จะยิ่งถูกกัดกร่อนออกไปได้อย่างรวดเร็ว จนทำให้เกิดการอักเสบของโพรงประสาทฟัน เกิดการแตกหักของฟันหน้า ความสูงของใบหน้าสั้นลงจากความสูงของฟันถูกกัดกร่อนให้เตี้ยลง ดังนั้นการป้องกันฟันกร่อนจากการว่ายน้ำจึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับนักกีฬาว่ายน้ำทุกคน รวมถึงเด็กๆที่ว่ายน้ำเป็นประจำ

ตำแหน่งฟันที่เกิดการกัดกร่อนของนักกีฬาว่ายน้ำ

      ฟันทุกซี่ทุกด้านของนักกีฬาว่ายน้ำสามารถเกิดการกัดกร่อนได้ทั้งหมด แต่ว่าจะเกิดการกัดกร่อนผิวฟันด้านในมากกว่าผิวฟันด้านนอก และพบฟันกร่อนรุนแรงที่ฟันบนมากกว่าฟันล่าง และฟันหน้าคู่กลางสามารถพบฟันกร่อนได้รุนแรงที่สุด

สาเหตุของการเกิดฟันกร่อนในนักกีฬาว่ายน้ำ

       ตัวการสำคัญในการทำให้เกิดฟันกร่อนจากการว่ายน้ำนั่นคือสารคลอรีน ที่ถูกเติมลงไปในสระว่ายน้ำอย่างไม่เหมาะสมเพื่อฆ่าเชื้อโรคในสระว่ายน้ำ ถ้าเป็นสระว่ายน้ำขนาดใหญ่จะนิยมใช้คลอรีนชนิดก๊าซ หากเป็นสระว่ายน้ำขนาดเล็กมักใช้คลอรีนชนิดเหลว (โซเดียวไฮโปคลอไรต์) หรือคลอรีนชนิดผงเช่น กรดไดคลอโรไอโซไซยานูริก หรือ กรดไทรคลอโรไอโซไซยานูริก ซึ่งเป็นแบบที่นิยมมากที่สุดในการใช้ปรับสภาพสระว่ายน้ำ

       เมื่อกรดไทรคลอโรไอโซไซยานูริก (Trichloroisocyanuric Acid, T.C.C.A) ทำปฏิกริยากับน้ำจะทำให้ได้กรดไฮโปคลอรัส (HClO) และ กรดไซยานูริก (C3N3O3H3) ซึ่งเป็นสารตกค้างที่ทำให้ความเป็นกรดของน้ำเพิ่มสูงขึ้นมากเรื่อยๆ และยังสลายตัวได้ช้า ทำให้ค่าความเป็นกรดด่าง (ค่าpH) ลดลงไปจนถึง 2.5-2.7 ความเป็นกรดระดับนี้สามารถทำให้เกิดการกัดกร่อนเนื้อฟันได้อย่างรุนแรง เพราะเคลือบฟันมีความสามารถทนทานต่อค่าความเป็นกรดด่างได้เพียง 5.5 เท่านั้น

       หากเป็นสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ที่มักใช้คลอรีนชนิดก๊าสในการปรับสภาพน้ำ ก๊าสคลอรีนจะทำปฏิกริยากับน้ำ ทำให้เกิดสารไฮโปคลอรัส ซึ่งช่วยฆ่าเชื้อโรค แต่ก็ทำให้เกิดกรดไฮโดรคลอริก ซึ่งเป็นกรดรุนแรงสามารถทำลายเคลือบฟันได้อย่างรวดเร็วจึงต้องมีการปรับสภาพน้ำด้วยโซดาแอช แต่หากผู้ดูแลไม่ได้ใส่ปริมาณโซดาแอชให้เพียงพอก็จะทำให้สภาพน้ำในสระมีความเป็นกรดรุนแรงมาก และทำให้เกิดการกัดกร่อนฟันได้อย่างรวดเร็ว

       แต่หากสระว่ายน้ำใช้คลอรีนจากสาร แคลเซียมไฮโปคลอไรต์ หรือ โซเดียมไฮโปคลอไรต์ จะมีความปลอดภัยกับนักว่ายน้ำมากกว่า เนื่องจากสารดังกล่าวทำให้ค่าความเป็นกรดด่างของน้ำสูงมากขึ้น ไม่เป็นกรดมากพอที่จะทำให้เกิดการกัดกร่อนฟันได้       

       ทั้งนี้ได้มีการกำหนดไว้ให้น้ำในสระมีค่าความเป็นกรดด่างอยู่ในช่วงระหว่าง 7.2-8.4 แต่จากการสำรวจสระว่ายน้ำในประเทศไทยในปี 2005  จำนวน 139 แห่งใน 15 จังหวัด พบว่าสระว่ายน้ำที่มีค่า pH ต่ำกว่าค่ามาตรฐาน 87.8% โดยมีค่าความเป็นกรดด่างต่ำกว่าจุดที่เคลือบฟันสามารถทนต่อการกัดกร่อนได้มากถึง 31% นักว่ายน้ำที่ฝึกซ้อมในสระที่ไม่ได้มาตรฐานจึงมีความเสี่ยงเกิดฟันกร่อนสูงมาก และกว่าครึ่งของสระว่ายน้ำในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีค่าความเป็นกรดด่างต่ำกว่า 3 และมีคลอรีนคงเหลือตกค้างมากกว่าที่กำหนด หากเด็กๆหรือนักกีฬาว่ายน้ำในสระที่มีค่าความเป็นกรดด่าง ต่ำกว่ามาตรฐาน วันละ 2 ชั่วโมง เป็นเวลา 4 สัปดาห์ จะสามารถตรวจพบฟันกร่อนได้ทุกคน

       นอกจากคลอรีนที่เป็นสาเหตุหลักของการเกิดฟันกร่อนจากการว่ายน้ำแล้ว การเป็นนักกีฬาว่ายน้ำอาจจะทำให้ดื่มเครื่องดื่มจำพวกน้ำอัดลม หรือเครื่องดื่มเกลือแร่ มากขึ้น ยิ่งทำให้เกิดการกัดกร่อนของฟันมากยิ่งขึ้นไปอีก และหากนักกีฬาใช้เทคนิคในการหายใจที่ไม่ถูกต้อง มีการหายใจทางปากขณะว่ายน้ำก็จะยิ่งทำให้น้ำคลอรีนยิ่งชะล้างกัดกร่อนฟันได้มากขึ้นไปอีก

การป้องกันการเกิดฟันกร่อนจากการว่ายน้ำ

  1. สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการเลือกว่ายน้ำในสระว่ายน้ำที่ได้มารตฐาน มีค่า pH อยู่ในช่วงที่เหมาะสม (2-8.4) และต้องเป็นสระว่ายน้ำที่ได้รับการดูแลตรวจวัดค่าความเป็นกรดด่างทุกวันและมีการปรับสภาพความเป็นกรดด่างตามมาตรฐาน
  2. ตรวจฟันกับทันตแพทย์เป็นประจำ ยิ่งตรวจพบภาวะฟันกร่อนได้เร็วตั้งแต่แรกเริ่ม จะช่วยสามารถจัดการและป้องกันไม่ให้เกิดการกร่อนฟันมากขึ้นในอนาคต
  3. ปรับเทคนิคในการว่ายน้ำ หลีกเลี่ยงการหายใจทางปากจะทำให้น้ำชะผิวเคลือบฟันได้มาก
  4. หลังจากว่ายน้ำเสร็จไม่ควรแปรงฟันทันที ต้องรอให้เกิดการคืนกลับแร่ธาตุจากน้ำลายก่อนอย่างน้อย 1 ชั่วโมง
  5. อาจใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารที่ช่วยในการคืนกลับแร่ธาตุ เช่น น้ำยาบ้วนปากฟลูออไรด์ หรือสาร CPP-ACP เช่นผลิตภัณฑ์ทูทมูส (Tooth Mousse) เร่งให้เกิดการคืนกลับของแร่ธาตุโดยเร็ว
  6. สามารถใช้น้ำผสมโซเดียมไบคาร์โบเนต หรือ เบกกิ้งโซดา ที่มีฤทธิ์เป็นด่าง เพื่อช่วยลดความเป็นกรดในช่องปาก
  7. การดื่มนมหลังจากว่ายน้ำเสร็จ สามารถช่วยปรับสมดุลกรดด่างในช่องปาก หลังจากการว่ายน้ำได้ดี และส่งเสริมการคืนกลับของแร่ธาตุ เนื่องจากมีองค์ประกอบของ โปรตีน แคลเซียม และฟอสเฟต ช่วยซ่อมแซมผิวฟันหลังจากเกิดกระบวนการกร่อนฟัน
  8. เฝือกฟันสำหรับนักกีฬาว่ายน้ำ (Mouth guard) ควรเลือกชนิดที่ทำโดยทันตแพทย์เพื่อจะได้เฝือกฟันที่มีขนาดพอดีกับผู้ใช้ จึงจะสามารถช่วยปกป้องผิวฟันทั้งหมดไม่ให้ถูกกัดกร่อนโดยน้ำคลอรีนได้ และช่วยป้องกันการเกิดอาการเสียวฟันหลังจากการว่ายน้ำได้ดี เมื่อเทียบกับกลุ่มที่ไม่ได้ใส่อุปกรณ์ป้องกัน ทั้งนี้หากต้องการให้เฝือกฟันมีความแน่นกระชับกับฟันมากขึ้นอาจใช้ร่วมกับฟลูออไรด์เจล ครีมทูทมูส หรือ วาสลีน

      ที่คลินิกทันตกรรมอัลปาก้า อุปกรณ์เฝือกฟันสำหรับนักกีฬาว่ายน้ำได้รับการออกแบบโดยทันตแพทย์ผู้มีประสบการณ์ในการทำอุปกรณ์ป้องกันฟันกร่อนสำหรับนักกีฬาว่ายน้ำทุกเคส และกำกับการผลิตเพื่อให้ได้ชิ้นงานที่แนบแน่นกระชับในขณะใส่ว่ายน้ำ โดยไม่หลุด แม้กระทั้งในช่วงเวลาแข่งขันที่สำคัญ

Scroll to Top